Friday, October 17, 2014

#15 Hashtag : Finale

เข้าสู่ Chapter สุดท้าย สำหรับเรื่องราว Hashtag นะครัชฒ์ ไม่พูดพร่ำ ทำเพื่อ
ขอวาดเรื่องราวต่อให้จบหมวด

ผู้เขียน ก็จัดเต็มไป สิบเอ็ดจุดยุทธศาสตร์ด้วยกัน อารมณ์ประมาณวันสิ้นโลกกันเลยทีเดียว -- ก็มาถึงขั้นตอนการแปะยาชา ซึ่งแปะที่ใบหน้า แต่ไปชาที่ใบตูด
คือ
นั่งรอแพทย์ผู้ทำหัตถการนานอยู่พอตัว นานพอที่ยาชามันจะไหลไปรวมที่ตูด

จนเริ่มสงสัยว่าแพทย์อาจจะเลเซอร์สวนจากแก้มก้นเป็นเส้นตรงทะลุเครื่องในทแยงไป ทะลุออกที่ใบหน้า ก่อนขึ้นเวทีจริงนั้น ผู้เขียนก็มีอาการวิตกจริต จนปัสสวะจะจับตัวเป็นเกร็ดแข็งกันอยู่แล้ว เลยต้องทำอะไรซักอย่าง ให้ความวิตกกังวลในใจนั้นหายไป แล้วจึงเหลือบไปเห็นคุณพยาบาลผู้มีใบหน้าเกือบจะอ่อนเยาว์ และเกือบจะอ่อนโยน (?)
RUSH: เอ่อ.. โทษครับผม ..จี้เลเซอร์นี่ เจ็บมากมั้ยครับ
พยบ: ก็ไม่มากนะคะ (พร้อมแฟลชยิ้มแห้งแห้งให้เปรี้ยงนึง)
พยบ: แปะยาชาแล้ว ..ยกเว้นจุดที่มีรากลึก อันนั้นก็จะเจ็บหน่อย
RUSH: (คิดในภวังค์: "กูพารานอยด์แdkเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ")
RUSH: แล้ว.. มันเจ็บประมาณไหนเหรอครับ ? มดกัด .. หรือว่า ?
พยบ: ก็เจ็บเหมือนถูกไฟจี้อ่ะค่ะ
แล้วกระผมข้าพเจ้าจะรู้มั้ย ว่าการถูกไฟจี้หน้ามันให้ความรู้สึกยังไง ชีวิตประจำวันปกติ ก็ไม่เคยเอาไฟมาจี้หน้าเล่นเพื่อความมันส์หรือเหตุกระไรนะครัชฒ์ แล้วเกล้ากระผมจะรู้จะสืบทราบได้อย่างไร หรือต้องลองวิ่งไปเอาไฟกระถางธูปจากโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระของโรงพยาบาลมาจี้หน้าสักที เห๊อะ ?

ผู้เขียนเงียบกับความคิดตัวเองไปครู่หนึ่ง พร้อมกับคำถามที่คั่งคาในใจว่า คุณพยายาบาลให้คนไข้จินตนาการหนักไปหรือเปล่า แต่ผู้เขียนก็ทิ้งความสับสนทางความรู้สึกนั่นไว้ข้างหลัง
จนกระทั่งถึงเวลาขึ้นเขียงของแท้ ถึงกับมีอาการเกร็งที่เป้ากันเลยทีเดียว
ภายในห้องปฏิบัติการ มีเครื่องมือเป็นเครื่องทางการแพทย์เหมือนจะกึ่งกึ่งไฮเทคกึ่งล้าสมัย (ยังไงของมึง Rush ?) เป็นตู้เหล็ก ซึ่งมีปลายปากกาด้ามใหญ่ จะว่าไป คล้ายหัวแร๊งค์ ที่เอาไว้จี้ตะกั่วเพื่อต่อวงจรอิเล็คทรอนิคส์ และมีไฟเปิดให้ความสว่าง คล้ายกับในคลีนิคทำฟันทันตแพทย์

เพียงแต่ครั้งนี้.. แพทย์ไม่ได้สั่งให้อ้ากว้างกว้าง

แพทย์ผู้ปฏิบัติการ เพียงแต่นำวัสดุไม่ทราบชนิด ซึ่งเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดเล็กพอดีกับดวงตาแปะบล็อคลูกตา ไม่ให้คนไข้เห็นชะตากรรมของตนที่กำลังจะเป็นไปภายในอีก ห้านาที ข้างหน้า และไม่ทันจะพ้นช่วงห้านาทีดังกล่าวนั้นดี แพทย์ก็ได้กล่าวอย่างนุ่มนวล ด้วยเสียงเย็นยะเยือก ราวกับนำน้ำแข็งที่ใกล้ละลายมาประคบที่ลำคอแล้วรูดไปมาให้หยิวกิ้ว
น้ำเสียงที่หนาวเหน็บนั้น ทำให้บาดอารมณ์เล็กเล็ก ด้วยคำพูดที่ไม่มีความหมายกระเทือนใจใดว่า "จะเริ่มแล้วนะคะ" ตอนนั้น ผู้เขียนรู้สึกได้ว่า เป้ากางเกงมันหลวมขึ้นผิดปกติ ..เดาได้ว่า อะไรบางอย่าง มันคงฝ่อ และบีบหดตัวเกร็งให้เล็กลง

http://photos-d.ak.instagram.com/hphotos-ak-xpa1/926644_488542614585499_1963557746_n.jpg

มารีวิวความทรมาณกับการปฏิบัติการครั้งนี้กันดีกว่า ความเจ็บปวดนั้น ไม่มากเท่ากับความวิตกจริตที่จ่ายออกไป ถ้าใครเคยกดสิว จะให้ปริมาณความเจ็บเกือบเท่ากัน -- เจ็บจนน้ำตาซึมออกมาเล็กเล็กโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ คุณจะได้รื่นรมย์ไปกับกลิ่นเนื้อย่างเกาหลี ที่มันมาจากใบหน้าของคุณเองด้วย
กลิ่นอร่อยเชียวครับ -- ดมไป น้ำตาก็ไหลไป
มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติ
อย่างน้อยผู้เขียนก็หลอกตัวเองว่ามันเป็นน้ำตาแห่งความปิติ เมื่อสิ้นสุดปฏิบัติการ
แพทย์สั่งห้ามไม่ให้ใบหน้าโดนน้ำสองวัน และหลังจากนั้น ให้ล้างหน้าด้วยน้ำ เป - ล่า หนึ่งอาทิตย์
(โปรดอ่านว่า "เป" ตามด้วย "ล่า" จะได้อารมณ์รุนแรงมาก) ห้ามใช้ครีม หรือน้ำมันพืช ใดใดกับใบหน้าเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ หลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลาสองสัปดาห์
อ ม จ
โอ้ว มอย จอร์ช
ผํู้เขียนเป็นจำพวกลัทธิคลั่งความสะอาดเสียด้วย การไม่ได้ล้างหน้าแค่วันเดียวนี่ก็ทำให้รู้สึกยู่ยี่ในจิตใจพอสมควรแล้ว นี่โดนสั่งห้ามโดนทำความสะอาดสองวันซ้อน และให้ล้างได้เพียงน้ำ เป --- ล่า อีกเป็นเวลาสัปดาห์นึง รู้สึกได้ถึงความโสโครกในระดับโครโมโซมกันเล้ย ให้ตายเถอะดนุพร

ขอตัดจบเรื่องดื้อดื้อ ด้วยประเด็นความโสโครกบนใบหน้าแต่เพียงเท่านี้

เอวัง

>> ฝากคอมเม้นต์แลกเบอร์โทร !

โปรดบอกความนัยกับผม