Monday, November 3, 2014

#23 รายการต่อไป


ในชีวิต ที่ได้เดินทางมา จนถึงไมล์นี้ กิโลเมตรนี้
ลี้นี้

อาจมีเรื่องราว รสชาติสีสัน เผ็ดร้อน ขมเฝื่อน หรือเค็มหวานตามเรื่องตามราว
และเราทุกคนก็กำลังเดินทางอยู่ในไทม์ไลน์ของตัวเอง
ไทม์ไลน์ที่ไม่เกี่ยวกับเฟซบุ๊ค
และไทม์ไลน์นี้ไม่หยุดบันทึก แม้เราไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ท
เราอาจเคยสงสัยเกี่ยวกับ

ความเป็นไปได้

ของชีวิตเรา ที่อาจดีขึ้นกว่านี้
อาจสงสัยว่า ถ้าเราเกิดมารวยกว่านี้
เกิดมามีความเพียบพร้อม สุขสบายกว่านี้

บางอย่างอาจดีขึ้น
นั่นคือ ปัญหา
การคิดว่าจุดสตาร์ทเราอาจดีได้มากกว่านี้

แต่ไม่ได้นึกถึงว่า
เราน่าจะเดินจากตรงที่เราอยู่ ได้ดีมากกว่านี้
ในเมื่อยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ท่านไหนสามารถผลิตไทม์แมชชีนย้อนอดีตได้
เพื่อที่จะกลับไปแก้ไขจุดบกพร่องเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเรา
ซึ่งถ้าแก้ได้จริง คงต้องย้อนกลับไปไกล
เพราะไม่รู้ว่า ไอ้ที่เราเกิดมาในสภาพนี้แล้วเราไม่ชอบ

สาเหตุมันมาจากอะไรกันแน่

มันอาจเป็นคนขายข้าวมันไก่ที่ทำอาหารไม่อร่อย
ทำให้คุณพ่อของเรารู้สึกหัวเสียในวันก่อนสอบปลายภาค
เมื่อทานข้าวมันไก่ไม่อร่อย เลยทำให้ไม่มีอารมณ์จะสอบ
ทำให้ผลการเรียนเขาไม่ดี
แล้วผลการเรียนของวิชานั้นดันเกี่ยวข้องกับสาขาที่เขาตั้งใจจะไปประกอบอาชีพ
แต่อาชีพที่เขาตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบ แต่อยากทำเพราะเอาใจที่บ้าน
สาเหตุที่เป็นไปได้ตอนนี้จึงมีทั้ง คะแนนที่ไม่ดี อารมณ์ที่ไม่มีจะสอบ อาชีพที่ไม่ชอบ

และข้าวมันไก่วันก่อนสอบที่รสชาติไม่ได้เรื่อง
เพราะถ้าเราย้อนเวลากันได้จริง
ซึ่งในอนาคตอาจทำได้ ผมไม่รู้
แต่ผมว่ามันคงวุ่นวายมากถ้าทำได้จริงจริงนะ..

ผมเองเคยเป็นคนหนึ่ง ซึ่งไม่พึงพอใจกับสถานะที่ตัวเองเป็น
ชาติกำเนิดของตัวเอง ลำดับเกิดของตัวเอง ความสูงของตัวเอง ความขี้โรคของตัวเอง
แต่เมื่อเวลาผ่านมาไม่กี่ปี
ผมพบว่า สิ่งที่เคยไม่พอใจ มันเป็นเรื่องขี้มูกค้างคาว


หลังจากวันที่ผมเริ่มจดสิ่งที่ผมไม่ชอบ และนึกว่าทำอะไรกับมันได้บ้าง
ผมก็ค่อยค่อยเปลี่ยนความขี้โรค เป็นร่างกายที่ปกติ
เปลี่ยนความเตี้ย เป็นความสูงที่ใ้ช้ได้ หรือถ้าบางคนเปลี่ยนไม่ได้ ความเตี้ยของคุณไม่ใช่ปัญหา เชื่อสิ
เพราะบางที ผมก็กลัวคนตัวเตี้ยกว่าต่อยเอา แม้ว่าผมจะสูงกว่าเขาพอสมควรก็ตาม
เรื่องชาติกำเนิด หรือลำดับเกิด หรือกรุ๊ปเลือด ผมดำ ตาขาว อะไรนี่มันเปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่เรา จะเลือกหยิบสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเราขึ้นมาแสดง
หรือจะนั่งมองสิ่งที่แย่เหล่านั้นในตัวเอง ซ้ำไปซ้ำมา เหมือนดูฉากนางเอกตายในละครซ้ำทั้งวัน
ความจริง โลก ชีวิต เผ็ดร้อน ขมเฝื่อน หรือหวานเค็ม ล้วนขึ้นอยู่ในลมหายใจ ในทุกชั่วโมง
คนที่น่าจะเหงาที่สุด อาจเป็นคนที่รู้สึกโชคดีมาก ที่เขาไม่มีใครมาเกาะแกะวันหยุดสุดล้ำค่าของเขา
ให้เขาได้ใช้ชีวิตตามลำพัง อย่างมีความกรุณากับตนเองบ้างเถิด
คนที่น่าจะช้ำใจกับความจนของตัวเองตั้งแต่กำเนิด
อาจรู้สึกดีใจเหลือเกินที่เขาไม่เกิดมาดีพร้อมทุกอย่าง

เพราะเขาอาจเห็นเพื่อนลูกคนรวยที่โตมาด้วยกัน ต้องหมดตัวเพราะความรักสบายและถนัดใช้เงินสร้างหนี้สิน
หรือถ้าหน้าตาคุณไม่ดูดี มันก็อาจมีข้อยกเว้น
คุณอาจไปอบสมุนไพร อาจไปจี้ไฝ อาจไปฉีดดั้ง ก็แล้วแต่จะทำ
เืลือกทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง
และไม่ทำร้ายคนที่อยู่ในร่างกายของคุณ

หรือ จิตใจส่วนลึกของคุณนั่นเอง
ผมยังคงยืนยัน และโฆษณาชวนเืชื่อให้ถามหาความสุขที่อยู่ในใจคุณเสมอ
เราอาจมีหลากหลายความเชื่อ ที่แตกต่างกัน
บางคนเชื่อว่าเราเกิดมาครั้งเดียว ตายครั้งเดียว หรือบางคน อย่างผม ที่เชื่อในโลกนี้ และโลกหน้า
ไม่ว่าเราจะเื่ชื่ออย่างไรก็ตาม

ชีวิตเราจะหมดความหมายทันที หากเราไม่เลือกที่จะฟังสิ่งที่อยู่ในใจของเรา
ให้เสียเวลาหาความสุขจนตาย หากหาไม่ถูกที่ คุณอาจไปจบที่การนั่งเสียใจตอนอายุ ห้าสิบห้า
ดั่งที่.. มีหลายตัวอย่างปรากฎมาแล้ว

ชีวิตของคนเรา
มีเพียงเจ้าของชีวิตนั้นเอง ที่รู้ ว่าเราจะทำมันให้ดีที่สุดอย่างไรได้
และอาจมีคนชี้ประตูให้เราเดินผ่านข้ามไปซักสิบ ยี่สิบคน
แต่ผู้ที่จะเดินผ่านประตูบานใดบานหนึ่งไปจริงจริง

คือเรา
ด้วยปัจจุบัน
ด้วยระลึกทุกลมหายใจ
หมั่นถามใจตัวเองว่า เราต้องการอะไร แล้วเราจะไม่หลงทาง
อย่างน้อยถ้าคุณต้องทำต้องฝืนเพื่อผู้อื่น คุณก็จะไม่ลืมที่จะเดินไปในจุดมุ่งหมายที่แท้จริงในใจ
ในภายหลัง

ป.ล. ขออภัยหากข้อความทั้งหมดที่เขียนมา ไม่ได้ทำให้คุณเข้าใจ แต่ผมต้องเขียนแบบนี้
แบบนี้เท่านั้น ที่จะสัมผัสประเด็นได้แน่นที่สุดว่า ชีวิตคนเรา เสียเปรียบที่สุดคือการมีความทุกข์
แบบที่ไม่เกิดประโยชน์ ในแต่ละวัน.. แน่นอนว่า ผมไม่ได้หมายถึงการอ่านหนังสือสอบ
แต่ถ้าเราเลือกอ่านหนังสือที่จะไปสอบวิชาที่เราไม่ชอบ อันนั้นก็ไม่แน่
เพราะคุณอาจหัวเสียกับข้าวมันไก่เป็นรายการต่อไป : )

>> ฝากคอมเม้นต์แลกเบอร์โทร !

โปรดบอกความนัยกับผม